Week 11
date : 3ndJanuary, 2013
Task-Based Instruction
ชื่อผู้แต่ง Prabhu
แบ่งประเภทของงานไว้ ๓ งาน
๑ An information gap activity แลกเปลี่ยนของมูลเพื่อให้งานสมบูรณ์
๒ An opinion gap activity ผู้เรียนจะต้องแสดงความคิดเห็น ทัศนคติ ความรู้สึกความชอบ งานจึงจะสมบูรณ์
๓ An reasoning gap activity ผู้เรียนจะต้องนำเสนอข้อมูลโดยสรุปใหม่เป็นของตัวเองอาจจะมีการคิดเห็นเป็นของตัวเองให้มันเหมาะสมกับข้อมูล
Cooperative Learning
เป็นการเรียนแบบร่วมมือ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเรียนรู้กันเองในรูปแบบที่เป็นกลุ่ม และมีส่วนร่วมทั้งผู้สอนและนักเรียน โดยการสอนนั้นครูจะสอนทักษะทางสังคม
Principles
๑ กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดเป็นกลุ่มร่วมมือกัน
๒ ผู้เรียนจะต้องอยู่กลุ่มเดียวกันซักระยะหนึ่ง ซักสองเดือน
๓ ความพยายามทุกคนได้รับรางวัลในกลุ่ม
๔ สอนเรื่องทักษะทางสังคม วิธีการกล่าวบทสนทนาให้ราบรื่น ลึกซึ่ง เข้มข้น
๕ การเรียนรู้ภาษาจะเกิดขึ้นได้เมื่อผู้เรียนใช้ภาษาเป้าหมายในการพูดคุยหรือทำงาน
๖ แม้ว่านักเรียนจะทำงานเป็นกลุ่มผู้เรียนก็ต้องรับผิดชอบงานของตัวเอง
๗ ความรับผิดชอบงานของตัวเองก็ต้องมีการรับผิดชอบร่วมกัน แชร์กัน
๘ สมาชิกทุกคนในกลุ่มจะต้องถูกกระตุ้นให้ตัวเองมีความรับผิดชอบ มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ส่งเสริมผู้นำในการจัดการแบ่งงาน
๙ ครูไม่ใช่แค่สอนในตังของภาษาแต่จะสอนในการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มด้วย
Whole Language Approach
การเรียนถาษาโดยภาพรวมไม่ต้องแยกออกเป็นส่วนๆ เน้นให้เด็กเข้าใจในภาพรวมของเนื้อเรื่องว่ามันคือเรื่องอะไร คำศัพท์อะไร แล้วค่อยดูส่วนประกอบเล็กๆที่อยู่ข้างใน
นักเรียนทำงานจากใหญ่ไปหาเล็กพบว่าการผิดพลาดของผู้เรียนโดยทดสอบสมมุติฐานของตัวเอง โดยการอ่านเพื่อให้เด็กเกิดความสนุกสนาน และการเข้าใจเป็นเรื่องของเราว่าจะทำอย่างไร
การศึกษาประเภทของ Whole Language บวกกับการเรียนเชื่อว่ากระบวนการทางสังคมเป็นการเรียนรู้ ต้องมีการทำงานร่วมกันระหว่างครู-นักเรียนและนักเรียนกับนักเรียนจึงจะประสบความสำเร็จ
thank you
tell me and I’ll forget
teach me and I’ll remember
Involve me and I’ll learn
Benjamin Franrlin
Process writing กระบวนการเขียนให้เห็นภาพโดยรวมทั้งหมดแก่ผู้เรียน
Journal keeping การเขียนโดยผู้เรียนสื่อสารกับผู้สอนโดยผู้สอนจะต้องอ่านที่เขียนโดยไม่แก้อะไรเลย
Multiple Intelligences
ผู้แต่ง Howard Gardnerการกระตุ้นจุดเด่น nine Intelligences
๑ Verbal-linguistic Intelligence ความฉลาดทางด้านภาษา
๒ Mathematical – Lofical Intelligence ความฉลาดทางด้านตัวเลข
๓ Naturalist Intelligence ชอบธรรมชาติ
๔ Visual-spatial Intelligence คิดเห็นอะไรเป็นภาพจินตนาการ เป็นมาย์เม็ท
๕ Bodily-Kinesthetic Intelligence เก่งเรื่องพละศึกษาการเครื่องไหวของร่างกายได้ดี
๖ Musical Intelligence เก่งการเล่นดนตรี
๗ Interpersonal Intelligence ความฉลาดทางด้านมนุษย์สัมพันธ์
๘ Existential Intelligence เป็นตัวของตัวเอง เป็นโลกส่วนตัวเป็นการที่ข้าใจความมีชีวิตอยู่ของมนุษย์(การเกิด แก่ เจ็บ ตาย)
การประยุกต์ทฤษฏีความฉลาดทำให้ผู้เรียนเข้าใจตนเองว่าเข้าใจด้านไหน เชื่อว่าเป็นกระบวนการของสังคมทางด้านจิตใจ เมื่อไรที่นักเรียนเข้าใจถึงความสมดุลก็มีความรู้การจัดการเห็นคุณค่าของความฉลาดของตัวเอง สำหรับครูจะได้เข้าใจว่านักเรียนมีความฉลาดด้านไหน เข้าใจยังไง เพื่อจัดให้มีการส่งเสริมในทักษะด้านนั้นๆทำให้มันคงอยู่เพื่อให้นักเรียนแสดงความฉลาดของเขาเอง
Multiple Intelligences
2 Total physical response Bodily/Kinesthetic
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น